เมนู

9. จันทิมสูตร



[241] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ . . . กรุงสาวัตถี สมัยนั้น
จันทิมเทวบุตรถูกอสุรินทราหูเข้าจับแล้ว ครั้งนั้นจันทิมเทวบุตรระลึกถึง
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า
ข้าแต่พระพุทธเจ้า ผู้แกล้วกล้า ขอ
ความนอบน้อมจงมีแต่พระองค์ พระองค์
เป็นผู้หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง ข้า
พระองค์ถึงฐานะอันดับขัน ของพระองค์
จงเป็นที่พึงแห่งข้าพระองค์นั้น.

[242] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงปรารภจันทิมเทวบุตร
ได้ตรัสกะอสุรินทราหูด้วยพระคาถาวา
จันทิมเทวบุตร ถึงตถาคตผู้เป็น
พระอรหันต์ ว่าเป็นที่พึ่ง ดูก่อนราหู
ท่านจงปล่อยจันทิมเทวบุตร พระพุทธเจ้า
ทั้งหลายเป็นผู้อนุเคราะห์โลก.

[243] ลำดับนั้น อสุรินทราหู ปล่อยจันทิมเทวบุตรแล้ว เร่งรีบ
เข้าไปหาท้าวเวปจิตติจอมอสูร แล้วก็เป็นผู้เศร้าสลด เกิดขนพอง ได้ยืนอยู่
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[244] ท้าวเวปจิตติจอมอสูตร ได้กล่าวกะอสุรินทราหูด้วยคาถาว่า
ดูก่อนราหู ทำไมหนอ ท่านจึง
เร่งรีบปล่อยพระจันทร์เสีย ทำไมหนอ
ท่านจึงมีรูปสลด มายืนกลัวอยู่.

[245] อสุรินทราหูกล่าวว่า
ข้าพเจ้าถูกขับ ด้วยคาถาของ
พระพุทธเจ้า หากข้าพเจ้าไม่พึงปล่อย
จันทิมเทวบุตร ศีรษะของข้าพเจ้าพึงแตก
เจ็ดเสี่ยงมีชีวิตอยู่ ก็ไม่พึงได้ความสุข.


อรรถกถาจันทิมสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในจันทิมสูตรที่ 9 ต่อไป :-
บทว่า จนฺทิมา คือเทพบุตรผู้สถิตอยู่ ณ จันทรวิมาน. บทว่า
สพฺพธิ ได้แก่ ในขันธ์อายตนะ เป็นต้นทั้งหมด. บทว่า โลกานุกมฺปกา
ได้แก่ เป็นผู้อนุเคราะห์ ทั้งท่าน ทั้งจันทรเทพบุตร เช่นเดียวกัน. บทว่า
สนฺตรมาโน ได้แก่ ดุจรีบด่วน. คำว่า ปมุญฺจสิ เป็นปัจจุปันกาล
ลงในอรรถอดีตกาล.
จบอรรถกถาจันทิมสูตรที่ 9